วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การแปลงค่าพิกัด (Co-ordinate transformation)

กระบวนการ Transformation หรือการคำนวณและทดสอบเมตริกแปลง เป็นกระบวนการดึงภาพที่บิดเบือน
ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและใกล้เคียงความเป็นจริง โดยมีจุด GCP ที่เลือกไว้เป็นจุดตรึงตำแหน่งต่างๆ ในขั้นตอนนี้จะคำนวณค่า
จากจุดควบคุมทางภาคพื้นดินที่กำหนดลงไปบนภาพ ผลการคำนวณจะระบุค่าความคลาดเคลื่อนเฉลี่ย (root mean
square;RMS.) ของแต่ละจุดโดยมีหน่วยเป็นระยะทางระหว่างตำแหน่งของจุดควบคุมทางภาพพื้นดินและจุดควบคุมทางภาคพื้น
ดินที่คำนวณขึ้นใหม่ ค่าความคลาดเคลื่อนจะมีหน่วยเป็นจำนวนจุดภาพ (Pixel) หรือ เป็นเมตร โดยรูปแบบของสมการที่ใช้คำนวณ
ความคลาดเคลื่อน (RMS) มีดังต่อไปนี้
RMS สำหรับแกนราบ X = (SUM (X1-Xorg)2 / (n-k))
RMS สำหรับแกนราบ Y = (SUM (Y1-Yorg)2 / (n-k))
เมื่อ : X1 = ค่าพิกัดแนวราบที่คำนวณได้ในข้อมูลภาพที่ยังไม่ได้ปรับแก้
Y1 = ค่าพิกัดแนวดิ่งที่คำนวณได้ในข้อมูลภาพที่ยังไม่ได้ปรับแก้
Xorg = ค่าพิกัดแนวราบของจุดควบคุมทางภาคพื้นดินในภาพ
Yorg = ค่าพิกัดแนวดิ่งของจุดควบคุมทางภาคพื้นดินในภาพ
n = จำนวนจุดควบคุมทางภาคพื้นดิน
k = ค่า Degree of freedom หรือ จำนวนจุด GCP. ที่ต้องใช้ ซึ่งขึ้นกับรูปแบบของสมการ
ทางคณิตศาสตร์ในการแปลงพิกัด
ค่า RMSerror สามารถบอกได้ว่า จุดควบคุมภาคพื้นดินมีตำแหน่งพิกัดใกล้เคียงกับพิกัดอ้างอิงเพียงใด (มี
หน่วยเป็นจุดภาพ) โดยทั่วไปค่า RMSerror ที่ยอมรับได้จะมีค่าบวกหรือลบไม่เกิน 1 จุดภาพ ถ้าค่า RMSerror มีค่าสูงแสดงว่า
ความคลาดเคลื่อนทางตำแหน่งมีมาก อย่างไรก็ตามการกำหนดจุด GCP ในตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมสามารถที่จะเพิ่มความถูกต้อง
ของการแปลงค่าพิกัดได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น