วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Narcissus นาร์ซิสซัส ดอกไม้ประจำเดือนธันวาคม

Narcissus นาร์ซิสซัส ดอกไม้ประจำเดือนธันวาคม



เดือนสุดท้ายของปีย่างเข้ามาแล้ว เดือนแห่งการเฉลิมฉลองและวันหยุดตามเทศกาลธันวาคมมีดอกไม้ชื่อ นาร์ซิสซัส เป็นดอกไม้ของคนที่เกิดเดือนนี้ค่ะดอกไม้ชนิดนี้ลักษณะคล้ายกับดอกไม้ที่ชื่อแดฟโฟดิลและดอกไม้ที่ชื่อว่าฌองควิล(สเปน)ที่เป็นดอกไม้ของคนที่เกิดเดือนมีนาคม(ลักษณะของเหมือนคล้ายกันคือเป็นพืชล้มลุกมีลักษณะของดอกผอมแคบและยาว หนังสือบางเล่มบอกว่าเป็นดอกชนิดเดียวกันแต่มีชื่อต่างกันและ มีสีเหลืองเหมือนกันอีกด้วย) ชื่อนาร์ซิสซัส มาจากภาษากรีกที่เรียกชื่อว่า นาร์ซิสโซ แปลว่าเอาชนะการลุ่มหลงมึนเมาได้และเชื่อกันว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับเฮเดส (Hades)จากยมโลก

ลักษณะคล้ายกับดอกไม้ที่ชื่อแดฟโฟดิลและดอกไม้ที่ชื่อว่าฌองควิล(สเปน)ที่เป็นดอกไม้ของคนที่เกิดเดือนมีนาคม(ลักษณะของเหมือนคล้ายกันคือเป็นพืชล้มลุกมีลักษณะของดอกผอมแคบและยาว หนังสือบางเล่มบอกว่าเป็นดอกชนิดเดียวกันแต่มีชื่อต่างกันและ มีสีเหลืองเหมือนกันอีกด้วย) ชื่อนาร์ซิสซัส มาจากภาษากรีกที่เรียกชื่อว่า นาร์ซิสโซ แปลว่าเอาชนะการลุ่มหลงมึนเมาได้และเชื่อกันว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับเฮเดส (Hades)จากยมโลก



นี่เป็นรูปของนางไม้ที่ชื่อเอคโค(ที่แปลว่าเสียงสะท้อน)

กับนาร์ซิสซัส ที่กำลังชะโงกเหนือลำธารเพื่อชมโฉมของตัวเอง

ชื่อของดอกไม้นาร์ซิสโซยังเกี่ยวกับเรื่องของเทพเจ้ากรีกอีกด้วย ในยุคนั้นมีชายหนุ่มรูปงามมากเป็นกึ่งมนุษย์กึ่งเทพมีชื่อว่านาร์ซิสซัส เนื่องจากความที่มีความหล่อเหลามากมีแต่คนหลงรักทั้งเทพเจ้าด้วยกัน มนุษย์ นางพรายต่างๆ แต่เขาไม่ได้รักใครเลยนอกจากตัวเองตอนนั้นมีนางพรายคนหนึ่งชื่อว่านาง เอคโค่ได้มาหลงรักแต่นาร์ซิสซัสไม่ได้สนใจ นางพราย เอคโคเสียใจมากหนีเข้าไปอยู่ในถ้ำจนตรอมใจตาย นาร์ซิสซัสก็ไม่สนใจค่ะ วันๆได้แต่นั่งอยู่ข้างๆแหล่งน้ำเพื่อชะโงกดูเงาตัวเอง อยู่มาวันหนึ่งคงจะชะโงกดูเงาตัวเองในลำธารเพลินไปหน่อยเลยตกลงไปในน้ำและจมน้ำตาย เทพเจ้ากรีกเลยเสกให้บริเวณที่เขาจมน้ำมีดอกไม้ชนิดหนึ่งขึ้นบริเวณนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึง ดอกไม้นั้นเลยได้ชื่อว่า นาร์ซิสซัส

เจ้าดอกไม้นาร์ซิสซัสยังมีความหมายเกี่ยวกับความตายและการเกิดใหม่อีกด้วยเพราะว่าสาวสวยนางหนึ่งชือ เพอร์เซโพเน่กำลังเก็บดอกไม้นี้ขณะที่ เฮเดส เจ้าแห่งยมโลกมาขโมยตัวของเธอเอาไปเป็นภรรยาที่ยมโลกทำให้เกิดการโศกเศร้ากันอย่างมากมายโดยเฉพาะแม่ของนางเพอร์เซโพเน่ร่ำไห้จน เฮเดสทนไม่ไหวจนยินยอมให้เธอกลับมาบนโลกในระยะเวลาสั้นๆคือช่วงฤดูไบไม้ผลิจนถึงฤดูไบไม้ร่วง ช่วงนี้เองค่ะที่ดอกแดฟโฟดิลหรือดอกนาร์ซิสซัสจะออกดอกชูช่อสว่างไสวไปตามท้องทุ่งและริมน้ำและจะออกดอกและบานก่อนดอกไม้ชนิดอื่นค่ะ ดอกนาร์ซิสซัสนี้ยังใช้ในงานพิธีศพของชาวอียิปต์โดยจะนำดอกไม้นี้ไปวางที่ริมฝีปาก ดวงตาทั้งสองข้างและจมูกของฟาโรห์ก่อนที่จะนำไปฝังหรือก่อนทำเป็นมัมมี่ แม้แต่ศาสนาคริสต์ก็ถือว่าดอกไม้นี้เป็นหมายของความตายและการฟื้นจากความตายของพระคริสต์ค่ะ

แต่ถ้าเป็นสมัยโบราญยุควิคตอเรียนถ้ามีคนส่งช่อดอกไม้ที่มีเจ้านาร์ซิสซัสแซมอยู่ด้วยจะแปลว่าส่งความระลึกถึงและอยากจะสารสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นและเต็มไปด้วยความเสน่หาค่ะแต่ในปัจจุบันถ้าส่งช่อดอกไม้ที่มีดอกนาร์ซิสซัส แดฟโฟดิลหรือจองควิลไปให้ใครจะมีความหมายว่าเพื่อระลึกถึงชีวิตหลังความตาย ความหวัง การเกิดใหม่และการมีชีวิตอมตะหรืออาจจะมีความหมายส่วนตัวว่าให้ความรัก ความหวังที่จะกลับคืนมาเหมือนเดิมค่ะ/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น